สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (3 เม.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันวันที่ 4 หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 85.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 89.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มี.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 820,000 บาร์เรล ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์เชื้อเพลิงในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 604,000 บาร์เรล อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 300,000 บาร์เรล
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาด โดยอิหร่านซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มฮามาสในการทำสงครามกับอิสราเอลในฉนวนกาซานั้น ประกาศว่าจะตอบโต้อิสราเอลหลังจากที่อิสราเอลโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งรวมถึงนายโมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดี ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับผลการประชุมของคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติให้โอเปกพลัสยังคงปรับลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นไปในลักษณะของการสมัครใจของประเทศสมาชิก ขณะที่ซาอุดีอาระเบียปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ JMMC จะจัดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันเดียวกับการประชุมเต็มคณะของกลุ่มโอเปกพลัส