สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (9 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่าการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 85.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 96 เซนต์ หรือ 1.06% ปิดที่ 89.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
อิสราเอลและกลุ่มฮามาสเริ่มเปิดฉากการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 เม.ย.) โดยมีอียิปต์และกาตาร์ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจา ซึ่งแม้ว่าทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ แต่นายอิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลได้แสดงความหวังว่า การเจรจาอาจจะมีความคืบหน้าและจะนำไปสู่การปล่อยตัวประกัน
ขณะที่ตัวแทนของกลุ่มฮามาสกล่าวว่า ข้อเสนอการหยุดยิงจากฝั่งอิสราเอลยังไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้องของฮามาส อย่างไรก็ดี ฮามาสจะยังคงทบทวนข้อเสนอดังกล่าวและจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่คนกลางทราบผลการตัดสินใจต่อไป
นักลงทุนยังคงจับตาท่าทีของอิหร่านซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) หลังอิหร่านประกาศว่าจะล้างแค้นอิสราเอล หลังจากอิสราเอลโจมตีสถานกงสุลของอิหร่านในซีเรียเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย ซึ่งรวมถึงนายโมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดี ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน
นักวิเคราะห์ระบุว่า หากอิหร่านทำสงครามโดยตรงกับอิสราเอล ก็จะทำให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางลุกลามออกไปจนส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันในตลาด
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.034 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 เม.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้