สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (11 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน หลังเงินเฟ้อที่ระดับสูงของสหรัฐทำลายความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในระยะใกล้นี้ แต่ความวิตกที่ว่าอิหร่านอาจโจมตีผลประโยชน์ต่าง ๆ ของอิสราเอลนั้นยังคงช่วยพยุงราคาน้ำมันดิบไว้ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.38% ปิดที่ 85.02 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 74 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 89.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
วิกัส ทวิเวดี นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากแมคควารีเปิดเผยว่า เป็นการยากที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์จะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หากไม่มีภาวะชะงักงันด้านอุปทานเกิดขึ้นจริงจากสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์
รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดกังวลว่าความคืบหน้าในการปรับลดเงินเฟ้ออาจหยุดชะงัก และจำเป็นที่เฟดจะต้องคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปในระยะเวลานานขึ้น
บรรดานักลงทุนคาดการณ์ในขณะนี้ว่า เฟดอาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อจากราคาผู้บริโภคที่สูงเกินคาด
ความล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน แม้โอเปกยังคงคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกที่แข็งแกร่งในปีนี้ก็ตาม
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) จะเปิดเผยรายงานคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันรายเดือนในวันศุกร์นี้ (12 เม.ย.) ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากเหตุไฟฟ้าดับในวันพุธ (10 เม.ย.) ซึ่งทำให้ต้องปิดหน่วยผลิตเชื้อเพลิงหลายแห่งของโรงงานผลิตน้ำมันขนาด 626,600 บาร์เรลต่อวันของบริษัทโมติวา เอนเตอร์ไพรส์ในพอร์ต อาร์เธอร์ รัฐเท็กซัส
บรรดานักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยบรรดาเทรดเดอร์วิตกว่าอิหร่านอาจตอบโต้ที่อิสราเอลโจมตีสถานทูตในซีเรียเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเกน รมว.ต่างประเทศของสหรัฐยืนยันว่า สหรัฐจะยืนเคียงข้างอิสราเอลในการรับมือกับภัยคุกคามจากอิหร่าน
ส่วนอิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้เริ่มการเจรจารอบใหม่หลังสงครามในกาซาดำเนินมากว่า 6 เดือน แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้