ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางบ้างแล้ว หลังจากที่อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกและโดรนหลายร้อยตัวโจมตีอิสราเอลเมื่อช่วงคืนวันเสาร์ (13 เม.ย.) ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรีย จนทำให้ทั่วโลกกังวลว่าอาจปะทุเป็นสงครามเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนถาวรอิหร่านประจำสหประชาชาติระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลถือว่ายุติลงแล้ว ซึ่งทำให้สถานการณ์ดูรุนแรงน้อยลง และลดความกังวลเรื่องโอกาสในการที่เหตุการณ์ดังกล่าวจะบานปลายเป็นสงคราม
ณ เวลา 18.30 น. ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 0.65 ดอลลาร์ หรือ -0.76% สู่ระดับ 85.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันกลายเป็นที่จับตามองในช่วงนี้อันเป็นผลจากการที่อิหร่านโจมตีอิสราเอล โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าราคาน้ำมันอาจพุ่งเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหรือสูงกว่านั้น หลังอิหร่านปฏิบัติการโจมตีตอบโต้อิสราเอล ซึ่งจุดประกายความกังวลว่าจะเกิดสงครามในภูมิภาค
ทั้งนี้ กลุ่มนักวิเคราะห์ระบุว่า อิหร่านมีแหล่งทรัพยากรน้ำมันอันมหาศาล และเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสามของกลุ่มโอเปค ดังนั้น หากขีดความสามารถของอิหร่านในการจัดหาน้ำมันให้กับตลาดโลกหยุดชะงัก ก็อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นได้
นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดในโลก และคั่นกลางระหว่างประเทศโอมานและอิหร่าน โดยถูกใช้เป็นช่องทางขนส่งน้ำมันในอัตราส่วน 1 ใน 5 ของปริมาณการผลิตน้ำมันทั่วโลกในแต่ละวัน