ราคาทองแดงในตลาดโลหะลอนดอน (LME) ทะยานขึ้นเหนือระดับ 10,000 ดอลลาร์ต่อเมตริกตันอีกครั้งในวันนี้ (7 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และหลังจากที่โกลด์แมน แซคส์เตือนว่าอุปทานทองแดงในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวอย่างมาก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาทองแดงที่ตลาด LME พุ่งขึ้น 1.4% สู่ระดับ 10,043.50 ดอลลาร์/ตัน เมื่อเวลา 13.26 น.ตามเวลาเซี่ยงไฮ้ ขณะที่ราคาอะลูมิเนียม ดีบุก และสังกะสี ทะยานขึ้นกว่า 1% แต่ราคาแร่เหล็กในตลาดสิงคโปร์ ลดลง 1.2% แตะระดับ 118.15 ดอลลาร์/ตัน
ราคาโลหะปรับตัวตามทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยง หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 175,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 238,000 ตำแหน่ง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดกระแสคาดการณ์ครั้งใหม่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า มีโอกาส 53% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปี 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณ 40% ในการสำรวจช่วงสิ้นเดือนเม.ย.
โกลด์แมน แซคส์ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองแดงในช่วงปลายปี 2567 สู่ระดับ 12,000 ดอลลาร์/ตัน จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 10,000 ดอลลาร์/ตัน พร้อมกับคาดการณ์ว่าทองแดงจะเผชิญกับภาวะขาดตลาด โดยคาดว่าสต็อกทองแดงอาจลดลงสู่ระดับที่ต่ำมากภายในไตรมาส 4 ของปีนี้
นับตั้งแต่ต้นปี 2567 ราคาทองแดงพุ่งขึ้น 17% แล้ว ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของกิจกรรมภาคการผลิตทั่วโลก รวมถึงภาวะอุปทานตึงตัว