สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพุธ (22 พ.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่ากรรมการเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกว่าเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานและส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.39% ปิดที่ 77.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 98 เซนต์ หรือ 1.18% ปิดที่ 81.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและไม่มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงมากพอที่จะทำให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้หรือไม่ นอกจากนี้ กรรมการเฟดยังได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากเงินเฟ้อไม่ได้ชะลอตัวลงต่อเนื่องจนถึงเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
รายงานการประชุมดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
ข้อมูลของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 900,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 700,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 400,000 บาร์เรล