สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (7 มิ.ย.) และลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันจากความกังวลว่า อุปสงค์น้ำมันอาจจะลดลง แม้ว่ากลุ่มโอเปกพลัสวางแผนที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันก็ตาม
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 75.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 79.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.9% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 2.5%
ข้อมูลบ่งชี้ว่า การขยายตัวของการจ้างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งจะทำให้เฟดชะลอการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงเดือนก.ย.
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 ในวันพฤหัสบดี (6 มิ.ย.) แม้แนวโน้มเงินเฟ้อไม่แน่นอนมากขึ้นก็ตาม
อัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงจะชะลอกิจกรรมทางเศรษฐกิจและส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ดอลลาร์ทะยานขึ้น 0.8% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เพียงไม่นานหลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงาน
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ หลังนักวิเคราะห์มองการประชุมของโอเปกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 มิ.ย.) ว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบสำหรับราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปกพลัสระบุว่า พร้อมที่จะระงับหรือยกเลิกการปรับเพิ่มการผลิตน้ำมัน
ส่วนจีนเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า แม้การส่งออกขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนพ.ค. แต่การนำเข้าน้ำมันดิบลดลง ซึ่งส่งสัญญาณถึงความวิตกด้านอุปสงค์ในจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ซื้อน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก