สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันศุกร์ (14 มิ.ย.) หลังจากการเปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลง แต่ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นได้ 4% ในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนประเมินการคาดการณ์เกี่ยวกับอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับน้ำมันดิบและน้ำมันเชื้อเพลิงในปีนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 78.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 82.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ต่างปรับตัวขึ้นเกือบ 4% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์สูงที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่เดือนเม.ย.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงในวันศุกร์ หลังจากการเปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐอ่อนแอลงในเดือนมิ.ย. สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 65.6 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 71.5 จากระดับ 69.1 ในเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์อุปสงค์ที่แข็งแกร่งได้ช่วยจำกัดการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐปรับเพิ่มประมาณการการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันสำหรับปี 2567 ขึ้นเล็กน้อย และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกยังคงคาดการณ์ว่า อุปสงค์จะขยายตัวค่อนข้างแข็งแกร่งที่ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
สำหรับจุดสนใจของตลาดน้ำมันนั้นอยู่ที่การเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งอาจคลายความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะเกิดภาวะชะงักงันของปริมาณน้ำมันจากตะวันออกกลาง