สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (5 ก.ค.) เนื่องจากความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการทำข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซานั้นได้บดบังอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงฤดูร้อน และแนวโน้มที่จะเกิดภาวะชะงักงันด้านอุปทานน้ำมันเนื่องจากมีพายุเฮอริเคนในอ่าวเม็กซิโก
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 72 เซนต์ หรือ 0.86% ปิดที่ 83.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 89 เซนต์ หรือ 1.02% ปิดที่ 86.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 2.1% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.4%
สำนักงานของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูเปิดเผยในวันศุกร์ว่า หัวหน้ากลุ่มมอสสาดซึ่งเป็นหน่วยงานด้านข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอลได้เดินทางกลับจากกรุงโดฮา เมืองหลวงของประเทศกาตาร์แล้ว หลังจากมีการประชุมในเบื้องต้นกับผู้ไกล่เกลี่ยที่พยายามจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซา และการเจรจาจะกลับมาดำเนินการต่อในสัปดาห์หน้า
การซื้อขายในตลาดน้ำมันยังคงเป็นไปอย่างเบาบางหลังจากตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการในวันพฤหัสบดี (4 ก.ค.) เนื่องในวันชาติสหรัฐ แต่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีการคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันที่แข็งแกร่งในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐ
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐรายงานเมื่อวันพุธ (3 ก.ค.) ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงเกินคาด 12.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจลดลง 700,000 บาร์เรล
สำหรับปัจจัยด้านอุปทานนั้น พายุเฮอริเคนเบริลซึ่งมีความรุนแรงในระดับ 2 ได้พัดขึ้นฝั่งที่เม็กซิโก หลังพัดถล่มจนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คนในแถบแคริบเบียน โดยสร้างความเสียหายให้กับอาคารและสายส่งไฟฟ้าในหลายเกาะในทะเลแคริบเบียน