สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันอังคาร (16 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันอ่อนแอลงด้วย อย่างไรก็ดี ความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.ช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบลดช่วงลบ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 80.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.32% ปิดที่ 83.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2567 ของจีนขยายตัวเพียง 4.7% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปี 2566 นอกจากนี้ GDP ไตรมาส 2 ของจีนยังอยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.1% และชะลอตัวจากไตรมาส 1/2567 ที่มีการขยายตัว 5.3%
เดนนิส คิสเลอร์ รองประธานฝ่ายการซื้อขายของบริษัท BOK Financial กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนยังคงชะลอตัวลงเนื่องจากรัฐบาลไม่ได้ออกมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจมากเท่าที่ควร และโรงกลั่นน้ำมันจำนวนมากในประเทศจีนก็พากันลดกำลังการผลิตเนื่องจากอุปสงค์เชื้อเพลิงอ่อนแอลง
ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.2% ในปี 2567 ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย. นอกจากนี้ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐลงสู่ระดับ 2.6% ในปี 2567 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.7%
สัญญาน้ำมันดิบลดช่วงลบในระหว่างวัน โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งจะช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 33,000 บาร์เรล
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์อย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาไทย