สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (23 ก.ค.) หลังมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวลงในประเทศจีน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.44 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 76.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.69% ปิดที่ 81.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันร่วงลงหลังมีรายงานบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาหยุดยิงครั้งใหม่ในฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล สั่งให้คณะเจรจาของอิสราเอลทำการเจรจาหยุดยิงครั้งใหม่ในวันพฤหัสบดีนี้ (25 ก.ค.) โดยเขากล่าวว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
ทั้งนี้ แผนการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสริเริ่มโดยรัฐบาลสหรัฐ โดยมีอียิปต์และกาตาร์ทำหน้าที่เป็นคนกลาง ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐจะพบปะกับนายเนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดีนี้
ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าสงครามในฉนวนกาซาจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันอ่อนแอลงด้วย โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2567 ของจีนขยายตัวเพียง 4.7% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.1% และชะลอตัวจากไตรมาส 1/2567 ที่มีการขยายตัว 5.3%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาไทย