สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (24 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและเบนซินลดลงมากกว่าคาด อย่างไรก็ดี ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระหว่างวัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 77.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 0.86% ปิดที่ 81.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 5.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 400,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 250,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในช่วงฤดูร้อน โดยมีการคาดการณ์ว่าโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในสหรัฐจะรายงานผลประกอบการลดลงอย่างมากในไตรมาส 2/2567 หลังจากความซบเซาของฤดูการขับขี่ยานยนต์ในหน้าร้อนได้ส่งผลให้กำไรเบื้องต้น (refining margins) ชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันในระหว่างวัน หลังมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา รวมทั้งความกังวลว่าการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกอ่อนแอลงด้วย