สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (25 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 2/2567 ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าอุปสงค์น้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 78.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 82.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ของ GDP ประจำไตรมาส 2/2567 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 2.8% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.1% หลังจากมีการขยายตัวเพียง 1.4% ในไตรมาส 1/2567 โดยการขยายตัวของ GDP ในไตรมาส 2/2567 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการนำเข้าน้ำมันของจีนที่ชะลอตัวลง โดยข้อมูลของรัฐบาลจีนบ่งชี้ว่า การนำเข้าน้ำมันและการกลั่นน้ำมันของจีนในปีนี้มีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับต่ำกว่าปี 2566 เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงท่ามกลางภาวะซบเซาของเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา รวมทั้งวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันในช่วงฤดูร้อน ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่าโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในสหรัฐจะรายงานผลประกอบการลดลงอย่างมากในไตรมาส 2/2567