สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในวันอังคาร (30 ก.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันภายในประเทศอ่อนแอลงด้วย ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) โดยคาดว่าที่ประชุมจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับเพิ่มอุปทานน้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.08 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 74.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.44% ปิดที่ 78.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์ต่างก็ปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนมีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจะหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
ที่ผ่านมานั้น ผู้นำจีนได้ให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจ แต่นักลงทุนคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะอยู่ในกรอบจำกัด หลังจากมีรายงานว่าที่ประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ครั้งที่ 3 (Third Plenum) เพียงแค่เน้นย้ำเป้าหมายเศรษฐกิจที่มีอยู่เดิม
ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงหลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอิสราเอลและกลุ่มฮามาสอาจจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา รวมทั้งการที่เจ้าหน้าที่อิสราเอลเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า อิสราเอลต้องการตอบโต้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งก่อเหตุโจมตีที่ราบสูงโกลัน แต่อิสราเอลไม่ต้องการทำให้ความขัดแย้งลุกลามกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบในตะวันออกกลาง
รายงานล่าสุดระบุว่า กองทัพอิสราเอลได้ทำการโจมตีแบบเล็งเป้าหมายในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอนเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) เพื่อสังหารผู้บัญชาการทหารของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เนื่องจากผู้บัญชาการทหารคนกล่าวมีส่วนรับผิดชอบต่อการยิงจรวดโจมตีที่ราบสูงโกลันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีเด็กชาวอิสราเอลเสียชีวิตจำนวน 12 ราย
นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ในวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) โดยที่ประชุมจะทำการทบทวนภาวะตลาดน้ำมัน ซึ่งรวมถึงแผนการยกเลิกการลดกำลังการผลิตบางส่วนตั้งแต่เดือนต.ค.นี้ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าที่ประชุมอาจจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้