ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงเกือบ 1% ใกล้หลุดระดับ 77 ดอลลาร์ หลังการเปิดเผยภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งอุปสงค์น้ำมันในตลาด
ณ เวลา 22.04 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ลบ 0.74 ดอลลาร์ หรือ 0.96% สู่ระดับ 77.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 46.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2566 จากระดับ 48.5 ในเดือนมิ.ย. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 48.8
ดัชนีภาคการผลิตปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ โดยเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่ได้รับผลกระทบจากภาวะหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน
ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นในช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
สหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น หลังกลุ่มฮามาสระบุว่า นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของฮามาส ได้เสียชีวิตจากการที่อิสราเอลใช้ขีปนาวุธยิงโจมตีที่พักของนายฮานิเยห์ในกรุงเตหะรานของอิหร่าน
"เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นถึงที่สุด และหลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะไม่มีประเทศใด ชาติใดที่จะได้ประโยชน์จากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง" นายปีเตอร์ สตาโน โฆษกของ EU กล่าว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากที่กองทัพอิสราเอลได้ทำการโจมตีแบบเล็งเป้าหมายในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เพื่อสังหารผู้บัญชาการทหารของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เนื่องจากมีส่วนรับผิดชอบต่อการยิงจรวดโจมตีที่ราบสูงโกลันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีเด็กชาวอิสราเอลเสียชีวิตจำนวน 12 ราย