ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% จ่อทะลุระดับ 70 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 22.37 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. บวก 0.76 ดอลลาร์ หรือ 1.10% สู่ระดับ 69.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 600,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุน หลังมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจชะลอแผนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 2 เดือน เพื่อพยุงราคาน้ำมันที่กำลังปรับตัวลงอย่างหนัก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แหล่งข่าว 2 รายจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัส เปิดเผยว่า โอเปกพลัสได้ตัดสินใจที่จะชะลอแผนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 2 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันกำลังปรับตัวลงอย่างหนักในขณะนี้
ก่อนหน้านี้ สมาชิก 8 ชาติจากโอเปกพลัสมีกำหนดเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรวม 180,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนต.ค. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการทยอยยุติการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันถูกกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแอจากจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก นอกจากนี้ อิรักและคาซัคสถานมักผลิตน้ำมันเกินโควตาในแต่ละเดือน แต่ก็ได้เสนอแผนที่จะลดการผลิตเพิ่มเติมภายในเดือนก.ย.2568 เพื่อชดเชยกับการผลิตที่เกินโควตาดังกล่าว