สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (20 ก.ย.) แต่ยังคงปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ และการลดลงของสต็อกน้ำมันในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 71.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 74.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ได้สกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน แต่ทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ ต่างก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 4% ในรอบสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นหลังจากน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 69 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปีเมื่อวันที่ 10 ก.ย.
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในวันพุธ
การลดอัตราดอกเบี้ยมักช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน แต่นักวิเคราะห์บางคนกังวลเกี่ยวกับความอ่อนแอในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ
ส่วนอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ได้แก่ การลดลงของสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว