ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ (24 ก.ย.) หลังจากทางการจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากอิสราเอลเปิดฉากโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
ณ เวลา 13.20 น. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ปรับตัวขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.31% แตะระดับ 71.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.14% แตะระดับ 74.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด และผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมายของรัฐบาล
ทั้งนี้ พาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการ PBOC ประกาศในวันนี้ว่า PBOC จะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% และจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (reverse repurchase rate) ระยะ 7 วันลงจากระดับ 1.7% สู่ระดับ 1.5%
ส่วนมาตรการอื่น ๆ นั้น รวมถึงการลดเงินดาวน์สำหรับการซื้อบ้านหลังที่สอง และการจัดสรรเงินกู้ระยะยาวมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 1.4178 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางซึ่งเป็นภูมิภาคสำคัญในการผลิตน้ำมัน หลังจากกองทัพอิสราเอลใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศซึ่งพุ่งเป้าโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนเมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) โดยทางการเลบานอนระบุว่าเหตุการณ์โจมตีดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 492 คน และทำให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพไปยังที่ปลอดภัย ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดของเลบานอนในรอบหลายสิบปี