สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (2 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในภูมิภาคแห่งนี้ แต่ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 70.1 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.46% ปิดที่ 73.9 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากอิหร่านได้ยิงขีปนาวุธจำนวนมากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้อิสราเอลที่สังหารประชาชนในฉนวนกาซา รวมทั้งผู้นำของกลุ่มฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ ขณะที่อิสราเอลยืนยันว่าจะเอาคืนอิหร่านจากการกระทำดังกล่าว โดยสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง เนื่องจากอิหร่านเป็นหนึ่งในสมาชิกรายใหญ่ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 840,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 500,000 บาร์เรล
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านอื่น ๆ นั้น คณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติคงนโยบายการผลิตของโอเปกพลัสในการประชุมเมื่อวานนี้ ส่งผลให้โอเปกพลัสยังคงปรับลดกำลังการผลิตรวม 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน โดยมาจากการปรับลดกำลังการผลิตของสมาชิกโอเปกพลัสจำนวน 3.66 ล้านบาร์เรล/วัน และการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจของสมาชิกโอเปกพลัส 8 ชาติจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ การประชุม JMMC ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 1 ธ.ค. 2567