สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (17 ต.ค.) โดยดีดตัวขึ้นหลังจากปิดลบ 4 วันติดต่อกัน หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 70.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 74.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันปิดลบ 4 วันติดต่อกัน เนื่องจากตลาดคลายความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมัน หลังสื่อรายงานว่าอิสราเอลไม่มีแผนโจมตีแหล่งน้ำมันของอิหร่าน นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะเติบโตช้าลง
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้แจ้งต่อโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า อิสราเอลมีแผนถล่มเป้าหมายทางการทหารในอิหร่าน โดยจะไม่โจมตีแหล่งน้ำมันหรือโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ขณะเดียวกัน สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ออกรายงานเตือนภาวะน้ำมันล้นตลาด อันเนื่องมาจากอุปสงค์ซบเซา โดย IEA เปิดเผยว่า อุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล/วันในปีนี้ และ 1 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ซึ่งถือว่าลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับระดับ 2 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงสิ้นสุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รายงานของ IEA สอดคล้องกับรายงานของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้และปีหน้า
โอเปกคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันขยายตัวเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ลดลงจากระดับ 2.0 ล้านบาร์เรล/วันซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ โอเปกคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันขยายตัว 1.6 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งการปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดังกล่าวนับเป็นการปรับลดลงติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ของโอเปก