ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว แม้น้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
ณ เวลา 23.16 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. บวก 0.62 ดอลลาร์ หรือ 0.91% สู่ระดับ 69.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 400,000 บาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
แม้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันนี้ แต่ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับทิศทางราคาน้ำมัน หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบทั่วโลกจะมากกว่าอุปสงค์ราว 1 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 ขณะที่สหรัฐเพิ่มกำลังการผลิต
ทางด้านกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยระบุว่า อุปสงค์น้ำมันโลกจะมีการขยายตัว 1.82 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 ลดลงจากระดับ 1.93 ล้านบาร์เรล/วันที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ โอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะมีการขยายตัว 1.54 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 ลดลงจากระดับ 1.64 ล้านบาร์เรล/วันที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.
ส่วนยูบีเอสได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สู่ระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 87 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยถูกกระทบจากอุปสงค์ที่อ่อนแอในจีน
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของสัญญา ทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น