สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (27 พ.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินที่สูงเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 68.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 72.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 46,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอาจทำให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่าดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ก็ปรับตัวขึ้นมากกว่าในเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 2.1%
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าสอดคล้องกับการคาดการณ์ แต่ก็ปรับตัวขึ้นมากกว่าในเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 2.7%
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า แม้นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. แต่ก็คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนม.ค.และเดือนมี.ค.ปีหน้า
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสื่อรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส กำลังหารือกันเกี่ยวกับการเลื่อนแผนปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน โดยกลุ่มโอเปกพลัสจะตัดสินในเรื่องดังกล่าวในการประชุมวันที่ 1 ธ.ค.นี้
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กจะปิดทำการในวันนี้ (28 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving)