สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (4 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อย่างไรก็ดี ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ลดลงมากกว่าคาดเป็นปัจจัยหนุนตลาดในระหว่างวัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 2.0% ปิดที่ 68.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.31 ดอลลาร์ หรือ 1.78% ปิดที่ระดับ 72.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
กลุ่มโอเปกพลัสมีกำหนดการประชุมในวันนี้ (5 ธ.ค.) ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าว โอเปกพลัสจะประกาศขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปจนถึงสิ้นไตรมาส 1/2568 ในการประชุมครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงราคาน้ำมัน จากเดิมที่ระบุว่าจะเริ่มยุติการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันสิ้นเดือนธ.ค. 2567
แมตต์ สมิธ นักวิเคราะห์ด้านน้ำมันจากบริษัท Kpler กล่าวว่า แม้ตลาดคาดการณ์ไว้แล้วว่าโอเปกพลัสอาจจะขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมัน แต่นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวังและจับตาการแสดงความเห็นของบรรดาสมาชิกโอเปกพลัสในการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังร่วงลงหลังจากรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ธนาคารแห่งหนึ่งได้ขายสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในปริมาณมากในช่วงบ่ายของวันพุธ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลและพยายามหาสาเหตุของการเทขายดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ตลาดได้รับปัจจัยบวกในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 5.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.0 ล้านบาร์เรล