สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (24 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปสงค์น้ำมันยังคงมีแนวโน้มสดใสในปีหน้า และคาดว่าอุปทานน้ำมันจะอยู่ในภาวะตึงตัวเล็กน้อย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 70.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.31% ปิดที่ 73.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI ฟื้นตัวหลังจากที่ปิดตลาดอ่อนแรงลงเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส
นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า อุปสงค์น้ำมันมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ในขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มด้านพลังงานระยะสั้น (Short-term Energy Outlook) เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปทานน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวลงในปี 2568
เคลวิน หว่อง นักวิเคราะห์จากบริษัท OANDA กล่าวว่า ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ล่าสุดมีรายงานว่าจีนจะออกพันธบัตรพิเศษวงเงิน 3 ล้านล้านหยวน (4.11 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลง 3.2 ล้านบาร์เรลและ 2.5 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ API เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวก่อนที่ EIA จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี (26 ธ.ค.)
- ตลาดน้ำมันนิวยอร์กจะปิดทำการซื้อขายในวันนี้ (25 ธ.ค.) เนื่องในวันคริสต์มาส*