สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (7 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดจะอยู่ในภาวะตึงตัว เนื่องจากชาติตะวันตกมีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่านและรัสเซีย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนจะปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.94% ปิดที่ 74.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 0.98% ปิดที่ 77.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราซาน ฮิลาล นักวิเคราะห์จากบริษัท Forex กล่าวว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนจะปรับตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการเดินทางในช่วงวันหยุด และจากการที่รัฐบาลจีนให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
นักลงทุนมองว่ามาตรการคว่ำบาตรที่ทำให้อุปทานน้ำมันอยู่ในภาวะตึงตัวนั้น ส่งผลความต้องการน้ำมันจากตะวันออกกลางปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการที่ซาอุดีอาระเบียปรับขึ้นราคาน้ำมันเดือนก.พ.สำหรับลูกค้าในเอเชีย ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบสามเดือน
นอกจากนี้มีรายงานว่า บริษัทชานตง พอร์ท กรุ๊ป (Shandong Port Group) ของจีน ประกาศห้ามเรือขนส่งน้ำมันที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรเข้าเทียบท่าเรือที่อยู่ในเครือข่ายของบริษัท ส่งผลให้เรือน้ำมันที่ถูกขึ้นบัญชีดำไม่สามารถขนส่งน้ำมันทางชายฝั่งตะวันออกของจีน
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวลง 4.02 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลาประมาณ 22.30 น.ตามเวลาไทย