สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (23 ม.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียและกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดราคาน้ำมัน ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม World Economic Forum (WEF)
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 82 เซนต์ หรือ 1.09% ปิดที่ 74.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 71 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 78.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวผ่านระบบวิดีโอลิงค์ในการประชุม WEF ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า เขาเรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียและโอเปกปรับลดราคาน้ำมัน เพื่อกดดันให้รัสเซียยุติการทำสงครามในยูเครน
"หากราคาน้ำมันปรับตัวลง สงครามรัสเซีย-ยูเครนก็จะยุติลงทันที ราคาน้ำมันในขณะนี้อยู่ในระดับสูงมากพอที่จะทำให้สงครามดำเนินต่อไป ดังนั้นพวกคุณต้องทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง และความจริงแล้วพวกคุณควรจะทำเช่นนี้นานแล้ว" ปธน.ทรัมป์กล่าวในที่ประชุม WEF
ทางด้านรัฐบาลซาอุดีอาระเบียยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับคำเรียกร้องของปธน.ทรัมป์
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.0 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล