ราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติคงนโยบายการผลิตน้ำมันในการประชุมวันนี้ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียและโอเปกทำการปรับลดราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมัน WTI ยังได้แรงหนุนจากการที่ปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา โดยประเทศทั้ง 2 เป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดให้แก่สหรัฐ
ณ เวลา 20.28 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. บวก 0.68 ดอลลาร์ หรือ 0.94% สู่ระดับ 73.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
คณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มโอเปกพลัส ได้เสร็จสิ้นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันนี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติคงนโยบายการผลิตของโอเปกพลัสตามที่มีการบรรลุข้อตกลงในการประชุมวันที่ 5 ธ.ค.2567 ส่งผลให้โอเปกพลัสยังคงปรับลดกำลังการผลิตรวม 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน โดยมาจากการปรับลดกำลังการผลิตของสมาชิกทั้งกลุ่มโอเปกพลัสจำนวน 2 ล้านบาร์เรล/วัน และการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจของสมาชิกโอเปกพลัส 8 ชาติจำนวน 1.65 ล้านบาร์เรล/วันในรอบแรก และ 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในรอบที่ 2
การปรับลดกำลังการผลิตของทั้งกลุ่มโอเปกพลัสจำนวน 2 ล้านบาร์เรล/วัน และการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจของสมาชิกโอเปกพลัส 8 ชาติจำนวน 1.65 ล้านบาร์เรล/วันในรอบแรกนั้น มีกำหนดสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นปี 2569 ส่วนการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในรอบที่ 2 นั้น สมาชิกโอเปกพลัส 8 ชาติจะเริ่มทยอยยุติการปรับลดกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนเม.ย.2568 หรือบ่งชี้ว่าโอเปกพลัสจะเริ่มปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนดังกล่าวจนถึงเดือนก.ย.2569
การประชุม JMMC ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 5 เม.ย.2568
ทั้งนี้ JMMC ไม่มีแนวโน้มที่จะเสนอให้โอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิตโดยทันทีตามข้อเรียกร้องของปธน.ทรัมป์ เนื่องจากตลาดน้ำมันยังคงมีความเปราะบาง ท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนแอในจีน และการผลิตน้ำมันจำนวนมากในสหรัฐ
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า การรักษาแผนเดิมของโอเปกพลัสในการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนเม.ย. โดยไม่มีการชะลอออกไป จะถือเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการตอบรับข้อเรียกร้องของปธน.ทรัมป์
นักวิเคราะห์ระบุว่า โอเปกพลัสกำลังเผชิญปัจจัยท้าทายใหม่จากการที่ปธน.ทรัมป์ใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษี ทำให้โอเปกพลัสต้องดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวัง โดยการสร้างสมดุลระหว่างความพยายามในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา และการรับมือกับความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์