ราคาน้ำมัน WTI ร่วงใกล้หลุดระดับ 71 ดอลลาร์ โดยถูกกดดันจากแนวโน้มการทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
ณ เวลา 22.47 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลบ 0.35 ดอลลาร์ หรือ 0.49% สู่ระดับ 71.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ต่างก็แสดงความประสงค์ที่จะบรรลุข้อตกลงสันติภาพ และปธน.ทรัมป์ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สหรัฐเริ่มกระบวนการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยสต็อกน้ำมันที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ รวมทั้งการที่ปธน.ทรัมป์เตรียมประกาศมาตรการทางภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐในวันนี้
สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์มีกำหนดจัดการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวเกี่ยวกับการประกาศใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐในวันนี้ (13 ก.พ.) เวลา 13.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 01.00 น.ของวันที่ 14 ก.พ.ตามเวลาไทย
"เรื่องใหญ่ในวันนี้ : การประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้ทางการค้า" ปธน.ทรัมป์ระบุใน Truth Social
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะลงนามบังคับใช้กฎหมายการค้าปี 1930 ในวันนี้ เพื่อเรียกเก็บภาษีตอบโต้ทางการค้าต่อประเทศที่เรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าที่สูงกว่าสหรัฐ
ทั้งนี้ กฎหมายการค้าปี 1930 จะให้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงสุดถึง 50% ต่อสินค้าที่มีการนำเข้าจากประเทศที่มีการเลือกปฏิบัติทางการค้าต่อสหรัฐ
ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การเรียกเก็บภาษีตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ในทันทีตามมาตรา 338 ของกฎหมายการค้าปี 1930
อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ปธน.ทรัมป์จะบังคับใช้มาตรการทางภาษีดังกล่าวต่อประเทศใดหรือสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมใด แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า ไทยและอินเดียเป็น 2 ประเทศในเอเชียที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด
ทั้งนี้ สหรัฐเป็นตลาดส่งออกสินค้าใหญ่ที่สุดของไทยในปี 2567 โดยไทยมีตัวเลขเกินดุลการค้าสหรัฐในปีดังกล่าวสูงถึง 3.54 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 2.90 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2566 และไทยส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐคิดเป็นสัดส่วน 17% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด