สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (28 ก.พ.) และปรับตัวลงรายเดือนเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนพ.ย. ขณะที่ตลาดประเมินการปะทะคารมกันอย่างดุเดือดที่ทำเนียบขาวระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลกับการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหม่ของสหรัฐฯ และการตัดสินใจของอิรักที่จะเริ่มส่งออกน้ำมันจากภูมิภาคเคอร์ดิสถาน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 59 เซนต์ หรือ 0.84% ปิดที่ 69.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 86 เซนต์ หรือ 1.16% ปิดที่ 73.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงในเดือนก.พ.เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังการปะทะคารมอย่างดุเดือดของปธน.ทรัมป์และปธน.เซเลนสกีเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในสงครามรัสเซีย-ยูเครน
"สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนที่เป็นมิตรกับรัสเซีย และมีโอกาสที่จะมีน้ำมันมากขึ้นในตลาด" จอห์น คิลดัฟฟ์ จาก Again Capital LLC กล่าว
ในระหว่างการโต้เถียงกันนั้น ทรัมป์ขู่ที่จะถอนการสนับสนุนจากยูเครน และเซเลนสกีได้ออกจากทำเนียบขาวโดยที่ไม่ได้เซ็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างสองประเทศเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรแร่ของยูเครน
นักเศรษฐศาสตร์จากหน่วยวิจัย BMI ของ Fitch กล่าวว่า นักลงทุนยังคงพยายามประเมินผลกระทบจากการประกาศนโยบายด้านพลังงานต่าง ๆ ของรัฐบาลทรัมป์ในเดือนนี้
โอเล ฮานเซน หัวหน้ากลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank กล่าวว่า นักลงทุนลดความเสี่ยงลงท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มขึ้นจากการที่ทรัมป์ได้เพิ่มความตึงเครียดในการทำสงครามภาษี โดยเฉพาะกับจีน ซึ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันทั่วโลก
ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ภาษี 25% สำหรับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาจะมีผลในวันที่ 4 มี.ค. พร้อมกับการเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน
สงครามภาษีอาจชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจโลก กระตุ้นเงินเฟ้อ และทำให้ความต้องการน้ำมันลดลง
กระทรวงน้ำมันของอิรักเปิดเผยว่า อิรักเตรียมประกาศการเริ่มส่งออกน้ำมันจากภูมิภาคเคอร์ดิสถานผ่านท่อส่งน้ำมันอิรัก-ตุรกี
อิรักจะส่งออกน้ำมัน 185,000 บาร์เรลต่อวันผ่าน SOMO ซึ่งเป็นบริษัทค้าน้ำมันของรัฐ และปริมาณนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
แม้มีการประกาศดังกล่าว แต่บริษัทน้ำมันระหว่างประเทศ 8 แห่งที่ดำเนินงานในภูมิภาคเคอร์ดิสถานระบุว่า จะไม่เริ่มส่งออกในวันศุกร์ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าและการรับประกันการชำระเงินสำหรับการส่งออกในอดีตและอนาคต
"การเริ่มส่งออกน้ำมันทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับวิธีที่อิรักจะปฏิบัติตามภาระผูกพันของกลุ่มโอเปกพลัส เนื่องจากอิรักผลิตน้ำมันเกินโควตาของตนอยู่แล้ว" แฮร์รี ชิลิงกูเรียน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Onyx Capital Group กล่าว
โอเปกพลัสกำลังหารือกันว่าจะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย.ตามแผน หรือจะยืดเวลาออกไป เนื่องจากสมาชิกกำลังพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์อุปทานน้ำมันทั่วโลก
ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Price Futures Group กล่าวว่า การเลื่อนการตัดสินใจอาจทำให้ราคาน้ำมันหลุดออกจากกรอบการซื้อขายในปัจจุบัน
"ขณะนี้ราคาน้ำมันปรับตัวอยู่ในกรอบการซื้อขาย แต่การเลื่อนการตัดสินใจจะทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้น" ฟลินน์ระบุ และเสริมว่า "โดยทั่วไปแล้วตามฤดูกาล ราคาน้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล จะเริ่มบวกขึ้นในช่วงเทศกาลอีสเตอร์"