สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (7 มี.ค.) แต่ลดลงจากระดับสูงสุดของวัน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ขู่จะคว่ำบาตรรัสเซีย หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 1.02% ปิดที่ 67.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.30% ปิดที่ 70.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 3.9% ถือเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 21 ม.ค. ส่วนราคาน้ำมันเบรนท์ลดลง 3.8% ซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 11 พ.ย.
ทรัมป์โพสต์บนทรูธ โซเชียล (Truth Social) ว่า เขากำลังพิจารณาอย่างจริงจังในการคว่ำบาตรธนาคารของรัสเซียและเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากรัสเซีย เนื่องจากกองทัพรัสเซียยังคงโจมตียูเครน
ในช่วงเช้าราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นสูงถึง 71.40 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนน้ำมันดิบ WTI แตะ 68.22 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจาก อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มโอเปกพลัสจะเดินหน้าขยายกำลังการผลิตในเดือนเม.ย. แต่หลังจากนั้นอาจพิจารณาดำเนินมาตรการอื่น ๆ รวมถึงการปรับลดการผลิต
ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Price Futures Group กล่าวว่า ตลาดน้ำมันได้รับแรงหนุนจากข่าวเกี่ยวกับโอเปกพลัสและความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะคว่ำบาตรรัสเซีย โดยกลบข่าวอื่น ๆ ไปหมด เช่น ความล่าช้าในการเจรจาหยุดยิงถาวรระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา
จอห์น คิลดัฟฟ์ จากบริษัท Again Capital LLC กล่าวว่า ในช่วงท้ายตลาดของวันศุกร์ ราคาน้ำมันทรงตัว หลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ โดยพาวเวลระบุว่า เฟดกำลังจับตาดูนโยบายใหม่ ๆ ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะด้านการค้า และผลกระทบที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจ
คิลดัฟฟ์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายที่รวดเร็ว รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อนักลงทุน
ราคาน้ำมันเบรนท์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ธ.ค. 2564 ในวันพุธ หลังจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และโอเปกพลัสประกาศเพิ่มโควตาการผลิต
โอเปกพลัสยืนยันเดินหน้าขยายกำลังการผลิตในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 138,000 บาร์เรลต่อวันเข้าสู่ตลาด
ในด้านอุปทานน้ำมันนั้น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สกอตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ มีแผนลดการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านให้เหลือน้อยที่สุด
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลทรัมป์กำลังพิจารณาแผนตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่านในทะเล เพื่อพยายามลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านให้เป็นศูนย์
ตลาดโลกยังคงผันผวนจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
เมื่อวันพฤหัสบดี ทรัมป์ประกาศระงับภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าส่วนใหญ่จากแคนาดาและเม็กซิโกไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย.
อย่างไรก็ตาม ภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมยังคงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 มี.ค.นี้
ส่วนในสหรัฐฯ นั้น การจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. ขณะที่อัตราว่างงานขยับขึ้นเป็น 4.1% แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าและการปรับลดงบประมาณของรัฐบาลกลางอาจส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 151,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 159,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.1% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.0%