ราคาน้ำมัน WTI พุ่งกว่า 1% จ่อทะลุระดับ 67 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเก็งกำไรเข้าตลาด หลังราคาดิ่งลงก่อนหน้านี้
ณ เวลา 19.37 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. บวก 0.92 ดอลลาร์ หรือ 1.40% สู่ระดับ 66.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันร่วงลงวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ซึ่งจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาด
ในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว Fox News ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอย และกล่าวเตือนว่า ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนผ่าน และแนวโน้มเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้น
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว -2.4% ในไตรมาส 1/2568 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว +2.3% ในไตรมาสดังกล่าว
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่เศรษฐกิจจีนอาจเผชิญภาวะเงินฝืด และการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 138,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตของโอเปกพลัสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2565
นักลงทุนจับตาเจ้าหน้าที่สหรัฐและยูเครนจัดการเจรจาในสัปดาห์นี้ที่ซาอุดีอาระเบียเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครน ซึ่งหากประสบความสำเร็จจะปูทางให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย และจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันในตลาดมากขึ้น
ตลาดจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ ก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลในวันพรุ่งนี้