สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (21 มี.ค.) และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐฯ ต่ออิหร่าน และแผนการผลิตล่าสุดของกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ทำให้ตลาดคาดว่าปริมาณอุปทานจะตึงตัวขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 68.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 72.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นราว 1.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์แรกของปีนี้ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 2.1%
เมื่อวันพฤหัสบดี (20 มี.ค.) กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ที่เกี่ยวข้องกับอิหร่าน โดยเป็นครั้งแรกที่มาตรการนี้พุ่งเป้าไปยังโรงกลั่นอิสระของจีน รวมถึงบริษัทและเรือบรรทุกน้ำมันที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านไปยังจีน
สหรัฐฯ ดำเนินการเป็นรอบที่ 4 แล้วในการคว่ำบาตรอิหร่านนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ให้คำมั่นในเดือนก.พ.ว่า จะใช้แรงกดดันสูงสุด และมุ่งลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านให้เป็นศูนย์
ธนาคาร ANZ คาดว่า การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านอาจลดลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้น ขณะที่ข้อมูลจาก Kpler ซึ่งให้บริการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันประเมินว่า การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านอยู่ที่มากกว่า 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.พ.
ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากแผนการใหม่ของโอเปกพลัสที่ให้สมาชิก 7 ประเทศปรับลดกำลังการผลิต เพื่อชดเชยการผลิตที่เกินจากระดับที่ตกลงกันไว้ โดยแผนดังกล่าวจะลดการผลิตลงระหว่าง 189,000-435,000 บาร์เรลต่อวันไปจนถึงเดือนมิ.ย. 2569
แผนการดังกล่าวอาจจำกัดการเพิ่มกำลังการผลิตของโอเปกพลัสในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
โอเปกพลัสยืนยันในเดือนนี้ว่า สมาชิก 8 ประเทศจะเพิ่มการผลิตรวม 138,000 บาร์เรลต่อวันนับตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการทยอยลดมาตรการจำกัดการผลิต 5.85 ล้านบาร์เรลต่อวันที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2565 เพื่อพยุงตลาด
นักวิเคราะห์ด้านน้ำมันจากบริษัท StoneX กล่าวว่า ตลาดต้องการเห็นหลักฐานเพิ่มเติมว่า อิรัก คาซัคสถาน และรัสเซีย ปฏิบัติตามแผนลดกำลังการผลิตที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นต่อแผนดังกล่าว
แหล่งข่าวอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของคาซัคสถานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค. เนื่องจากการขยายแหล่งขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งทำให้การผลิตของคาซัคสถานสูงเกินโควตาของโอเปกพลัส