สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (25 เม.ย.) แต่ยังคงลดลงในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากตลาดกังวลว่าจะมีปริมาณน้ำมันล้นตลาด และยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 63.02 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 2.6% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 66.87 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 1.6% ในรอบสัปดาห์นี้
จีนประกาศยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ของโลกอาจเริ่มผ่อนคลายลง แต่รัฐบาลจีนรีบปฏิเสธคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่บอกว่ากำลังมีการเจรจากัน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนมองว่า ราคาน้ำมันไม่น่าจะปรับตัวขึ้นในระยะสั้น เพราะสงครามการค้าระหว่างประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ยังคงดำเนินต่อไป และยังมีการคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจเร่งเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนมิ.ย.
เมื่อต้นเดือนนี้ราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังจากที่สงครามภาษีจุดกระแสความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับอุปสงค์ทั่วโลกและทำให้ตลาดการเงินถูกเทขายอย่างหนัก
แม้เศรษฐกิจที่อ่อนแออาจส่งผลให้ความต้องการน้ำมันลดลง แต่ก็มีโอกาสที่อุปทานจะเพิ่มขึ้น โดยสมาชิกหลายรายของกลุ่มโอเปกพลัสได้เสนอให้เร่งการเพิ่มการผลิตน้ำมันเป็นเดือนที่สองในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ หากสงครามในยูเครนยุติลง ก็อาจทำให้มีน้ำมันจากรัสเซียเข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งเพิ่มอุปทานน้ำมัน
ยูริ อูชาคอฟ เจ้าหน้าที่เครมลินกล่าวว่า การประชุม 3 ชั่วโมงเมื่อวันศุกร์ระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย กับ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของทรัมป์ เป็นไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ และช่วยลดความเห็นต่างในการหาทางยุติสงครามในยูเครน
ส่วนข้อมูลจากเบเกอร์ ฮิวจ์ส (Baker Hughes) บริษัทให้บริการด้านพลังงานระบุเมื่อวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 แท่น เป็น 483 แท่นในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 เม.ย.