แถลงการณ์ของทั้งสองบริษัทระบุว่า ข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ครอบคลุมถึงการจ่ายเงินซื้อธุรกิจอุปกรณ์ของโนเกียมูลค่า 3.79 พันล้านยูโร และสิทธิบัตร 1.65 พันล้านยูโร นอกจากนี้ มีรายงานว่าซีอีโอของโนเกียจะลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปทำงานให้กับไมโครซอฟท์
ที่ผ่านมานั้น โนเกียพยายามดิ้นรนที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ให้ได้ อีกทั้งยังประสบปัญหาเกี่ยวกับเงินสดหมุนเวียน อันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่ซบเซาลง จนทำให้โนเกียต้องตัดสินใจลดจำนวนพนักงานกว่า 20,000 คน และระงับแผนการแยกธุรกิจในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อฟื้นฟูฐานะการเงินของบริษัท
สตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอของไมโครซอฟท์ และอีลอป โพสต์ผ่านบล็อกร่วมกันว่า วันนี้ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงแห่งนวัตกรรม ความมุ่งมั่นและทรัพยากรของไมโครซอฟท์จะช่วยผลักดันธุรกิจอุปกรณ์และบริการของโนเกียให้เดินหน้า เราตระหนักดีถึงศักยภาพของระบบวินโดว์ส ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ที่ไม่สามารถเทียบเคียงได้ให้กับผู้คนทั้งที่อยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน และทุกๆที่
ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า พนักงานของโนเกียประมาณ 32,000 คน จะถูกโอนไปทำงานที่ไมโครซอฟท์
ที่ผ่านมา ธุรกิจอุปกรณ์และบริการของโนเกียสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 50% ในปี 2555 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านยูโร
บอลเมอร์กล่าวว่า นับเป็นย่างก้าวที่สำคัญสู่อนาคต ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ทั้งกับพนักงาน ผู้ถือหุ้น และผู้ใช้บริการของทั้ง 2 บริษัท ดีลครั้งนี้จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและกำไรของไมโครซอฟท์ในธุรกิจอุปกรณ์มือถือ