"ปัญหาความปลอดภัยอาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากขาดการสนับสนุนทางเทคนิค ภายหลังไมโครซอฟท์ยุติให้บริการต่างๆ ซึ่งทำให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ XP เสี่ยงจากแฮคเกอร์" นายหยานกล่าว
ไมโครซอฟท์ยุติบริการสนับสนุน Windows XP ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกมา 13 ปีแล้ว แต่ XP ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการหลักของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ชาวจีน ทั้งนี้ไมโครซอฟท์แนะนำให้ผู้ใช้อัพเกรดเป็นระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 หรือหาซื้อเครื่องใหม่หลังวันที่ 8 เม.ย.เป็นต้นไป หากจำเป็น
"Windows 8 ค่อนข้างแพงและจะเพิ่มต้นทุนการจัดซื้อของรัฐบาล" นายหยานกล่าว พร้อมกับเสริมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างเจรจากับไมโครซอฟท์ในเรื่องนี้ โดยปัจจุบันราคา Windows 8 ในประเทศจีนอยู่ที่ 888 หยวน (142 ดอลลาร์สหรัฐ)
ทั้งนี้ เพื่อปกป้องระบบปฏิบัติการ Windows XP และช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานต่อไปได้ บรรดาผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยของจีนจึงได้ออกผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยสำหรับ XP โดยเฉพาะ
"รัฐบาลกำลังประเมินผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง และจะส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพื่อปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้" นายหยานระบุ
เขากล่าวว่า รัฐบาลจีนลงทุนเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อซื้อซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์นับตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งเป็นช่วงที่จีนได้เริ่มรณรงค์ต่อต้านการใช้สินค้าเถื่อนในหน่วยงานภาครัฐ
นายหยานระบุว่า ในปี 2556 หน่วยงานภาครัฐทั้งหมดที่สูงกว่าระดับเขตปกครองได้ถูกตรวจสอบ โดยมีการแก้ไขแนวทางปฏิบัติด้านการจัดซื้อซอฟต์แวร์ของหน่วยงานภาครัฐเหล่านั้น นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังเดินหน้าขยายขอบเขตการรณรงค์ไปสู่รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องในปีต่อๆไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน