กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วสำหรับธุรกิจเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่จะต้องจัดงานสุดอลัง เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้โลกยลโฉม และล่าสุดเมื่อกลางดึกวันจันทร์ตามเวลาบ้านเรา งาน “WWDC 2014" ซึ่งแอปเปิ้ลจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ก็ได้เริ่มเปิดฉากขึ้นที่ Moscone West ในเมืองซานฟรานซิสโกของสหรัฐ แน่นอนว่า ไฮไลท์ในงานครั้งนี้ที่หลายคนตั้งตารอคอยก็คือ keynote วาระแรกสุดของงานซึ่งบรรดาผู้บริหารของแอปเปิ้ลจะผลัดกันนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะทยอยเปิดให้ใช้งานจริงหลังจากนี้ และเพื่อเกาะติดประเด็นร้อนประจำสัปดาห์ วันนี้ In Focus จึงขออาสาพาท่านไปทำความรู้จักกับงาน WWDC และเทคโนโลยีล่าสุดจากแอปเปิ้ลที่เพิ่งเปิดตัวสดๆร้อนๆในงานปีนี้
*รู้จักกับ WWDC
WWDC หรือ Apple Worldwide Developers Conference เป็นงานที่แอปเปิ้ลจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี งานครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 1983 มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงผลงานและเทคโนโลยีใหม่ๆของบริษัท โดยจะเริ่มต้นด้วย Keynote ซึ่งเป็นช่วงแรกของงานและเป็นที่จับตาของผู้เข้าร่วมในงานและคอเทคโนโลยีจากทั่วโลก เนื่องจากจะมีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นครั้งแรก และใน Session ต่อๆมาก็จะมีการเสวนาเชิงลึกย่อยออกไปในแต่ละผลิตภัณฑ์ WWDC ในยุคแรกจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์และเทคโนโลยี อาทิ ระบบปฏิบัติการ Mac OS จนกระทั่งงาน WWDC 2002 ซึ่งเริ่มมีการประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ได้แก่ เครื่องเซิร์ฟเวอร์ Xserve และในปีต่อๆมาก็มีการเปิดตัว Power Mac G5 (2003), Macbook Pro (2009), iPhone 3GS (2009), iPhone 4 (2010), Macbook Pro with Retina Display (2012) งานในปีหลังๆยังเริ่มมีการเปิดตัว iOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์แอปเปิ้ล อาทิ iOS 5 (2011), iOS 6 (2012), iOS 7 (2013) และล่าสุด iOS 8 ซึ่งเพิ่งเปิดตัวใน WWDC 2014 ปีนี้
กฎเกณฑ์เล็กๆน้อยๆของผู้เข้าชมงานนี้ก็คือ จะต้องเซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล (Non-disclosure agreement: NDA) ซึ่งรวมถึงรายละเอียดการเสวนาในงาน และเอกสารภายในทั้งหมด แต่ในระยะหลังทางแอปเปิ้ลเองได้เริ่มถ่ายทอดสด keynote ผ่านเว็บไซต์ ซึ่งทำให้เข้าถึงผู้ชมนอกเหนือจากในงาน นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมงานจะต้องมีอายุ 13 ปีขึ้นไป งานเริ่มมีการคลี่คลายข้อกำหนดเรื่องอายุเมื่อปี 2012 จากเดิมกำหนดอายุขั้นต่ำที่ 18 ปี บัตรเข้าชมงานแอปเปิ้ลในระยะหลังนั้นเป็นที่ต้องการสูงมาก โดยบัตรสามารถขายได้หมดทั้ง 5,000 ที่นั่งตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยในเป็นปีนี้เป็นปีแรกที่แอปเปิ้ลเลือกใช้วิธีสุ่มผู้เข้าชมงาน ราคาบัตรในปีนี้ยังคงเท่าเดิมกับปีก่อนๆที่ 1,599 ดอลลาร์สหรัฐ
งาน WWDC จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่ Moscone Center ในเมืองซานฟรานซิสโกของสหรัฐ เดิมทีจะจัดขึ้นช่วงกลางเดือนพ.ค. จนกระทั่งปี 2003 งาน WWDC ก็ได้ย้ายมาจัดในเดือนมิ.ย. เพื่อตอบสนองผู้เข้าชมให้ดีขึ้นเนื่องจากตรงกับช่วงหน้าร้อนและช่วงปิดเทอมที่สหรัฐ
*เปิดประตูดูงาน WWDC 2014
สำหรับ Keynote ใน งาน WWDC ในปีนี้ก็ยังคงแบบฉบับเดิมเหมือนเช่นเคย คือ ซีอีโอ ทิม คุก ซึ่งสานต่อสตีฟ จ็อบส์ผู้ล่วงลับ นำทัพผู้บริหารแสดงข้อมูลสถิติและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลสถิติในงาน
กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วที่ไม่ว่าแอปเปิ้ลจะจัด Keynote ในคราวใดก็จะมีการจิกกัดคู่แข่งอยู่เสมอ ซึ่งสามารถเรียกเสียงฮาและให้ข้อมูลน่ารู้ไปพร้อมกัน ในปีนี้ก็เช่นเคย ทิม คุก กล่าวพร้อมขึ้นสไลด์ในช่วง Keynote ว่า Mac OS X Mavericks มีผู้ใช้งานแล้ว 51% จากผู้ใช้งาน Mac OS ทั้งหมด ซึ่งต่างสุดขั้วจาก Windows 8 ซึ่งมีผู้ใช้งานเพียง 14% จากผู้ใช้ Windows ทั้งหมด และยังเหน็บแนมระบบปฏิบัติการ Android ว่า iOS7 มีผู้ใช้งานแล้ว 89% จากผู้ใช้งาน iOS ทั้งหมด ขณะที่ Kitkat มีผู้ใช้งาน 9% เท่านั้นจากผู้ใช้ Android ทั้งหมด และ Android ยังครองส่วนแบ่งมัลแวร์ถึง 99% ขณะที่ iOS มีแค่ 1% เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ แอปเปิ้ลขาย iPod Touch ทั่วโลก 100 ล้านเครื่อง, iPad 200 ล้านเครื่อง และ iPhone 500 ล้านเครื่อง บริษัทที่ติดทำเนียบ Foretune 500 ถึง 98% มีการใช้อุปกรณ์ iOS ในองค์กร ขณะที่จำนวนแอพลิเคชั่นใน App Store ของแอปเปิ้ลมี 1.2 ล้านแอพ มีจำนวนเข้าชม App Store ถึง 300 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ และมียอดดาวน์โหลดจาก App Store กว่า 75,000 ล้านครั้ง
- Mac OS X 10.10 Yosemite
ก่อนที่จะถึงวันจริง มีกระแสข่าวลือมากมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวในงานนี้ รวมถึงชื่อเวอร์ชั่นระบบปฏิบัติการใหม่ของ Mac OS X ด้วย หลายกระแสคาดว่าระบบปฏิบัติดังกล่าวรุ่นล่าสุดจะมีชื่อว่า Yosemite เนื่องจากก่อนถึงวันงานไม่กี่วันทางแอปเปิ้ลได้ติดแบนเนอร์ที่ Moscone Center ซึ่งในบรรดาแบนเนอร์นั้นมีรูปภูเขาหินแกรนิต El Cap ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Yosemite ในแคลิฟอร์เนีย
สำหรับ Mac OS X 10.10 Yosemite เป็นระบบปฏิบัติการ รุ่นถัดจาก OS X Mavericks ซึ่งเป็นสถานที่ชื่อดังในแคลิฟอร์เนีย โดยใน 10.10 Yosemite ได้มีการปรับเปลี่ยนให้ยูสเซอร์ อินเทอร์เฟส ทันสมัย และมีการเพิ่มความสามารถของโปรแกรมต่างๆ อาทิ Mail Drop ซึ่งสามารถส่งเมล์พร้อมไฟล์ใหญ่ถึง 5GB ต่อฉบับได้ Safari ที่เร็วขึ้น และในเวอร์ชั่นนี้ยังมี AirDrop ซึ่งเป็นทีคุณสมบัติถ่ายโอนไฟล์ระหว่างเครื่องซึ่งเดิมที่ใช้ได้ระหว่างอุปกรณ์ iOS7 เท่านั้น ทำให้จากนี้ไป เครื่อง Mac ที่ใช้ 10.10 Yosemite และ iPhone ที่ใช้ iOS7 ขึ้นไปสามารถถ่ายโอนไฟล์ระหว่างกันได้ การทำงานระหว่างกันของเครื่อง OS X และอุปกรณ์ที่ใช้ iOS ราบรื่นขึ้น ถือเป็นจุดเด่นของ OS X รุ่นล่าสุดนี้ เพราะนอกจากนี้ 10.10 Yosemite ยังสามารถรับสายหรือสั่งโทรออกไปยัง iPhone ได้ด้วย
- iOS 8
iOS 8 เปิดตัวในงาน WWDC ปีนี้เป็นไปตามคาดหมาย หลังจากที่รุ่นพี่ได้ทะยอยเปิดตัวในงานระยะหลังทุกปี โดย iOS เวอร์ชั่นนี้จะมีหน้าตาที่ไม่แตกต่างจาก iOS รุ่นก่อนเท่าใดนัก แต่จะปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น โดยมีฟีเจอร์ที่สำคัญ อาทิ ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับ Notification ที่แจ้งเตือนได้ อาทิ การกดไลค์เฟสบุ๊ก โดยไม่ต้องลากนิ้วเพื่อปลดล็อกหน้าจอ Siri สามารถจดจำเพลงได้ สั่งใช้ซื้อคอนเทนท์จาก iTunes ได้ Siri ยังสามารถบอกชื่อของเพลงได้เพียงแค่นำอุปกรณ์ iOS วางใกล้ๆต้นเสียง และรองรับการพิมพ์ด้วยเสียงเพิ่ม 22 ภาษา ซึ่งรวมภาษาไทยด้วย iOS 8 ยังรองรับคีย์บอร์ดภายนอกจากนักพัฒนาได้อีกด้วย และยังมีฟีเจอร์ QuickType ที่สามารถเดาคำระหว่างพิมพ์ซึ่งสามารถรองรับภาษาไทยได้เช่นกัน
- Healthkit และ Homekit
จุดเด่นของ iOS8 คือ ฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการสั่งงานเครื่องใช้ภายในบ้าน ซึ่งเปิดตัวในงานนี้อย่างไม่พลิกโผ โดยฟีเจอร์ HealthKit จะสามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การนอน น้ำหนัก และความดันโลหิต ขณะที่แพลตฟอร์ม Homekit เป็นโปรโตคอลการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ iOS และเครื่องใช้ภายในบ้าน ซึ่งสามารถกำหนดให้อุปกรณ์ของเราสามารถควบคุมประตูหรือหลอดไฟภายในบ้านได้ และสามารถตั้งค่ากลุ่มการทำงานเป็นชุดๆได้
นอกจากนี้ยังการเปิดตัวเทคโนโลยีที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ iCloud Drive ซึ่งเป็นโซลูชั่นเก็บไฟล์บนคลาวด์ที่ออกมาท้าชน Dropbox ภาษา Swift ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้พัฒนาโปรแกรมบน iOS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาทั้งในแง่ประสิทธิภาพและฟีเจอร์ของภาษาสมัยใหม่ เป็นต้น และแม้ว่าในงาน WWDC ปีนี้จะมีการเผยโฉมอุปกรณ์ใหม่ อาทิ iPhone, iMac, Mac Mini หรือนาฬิกา iWatch ออกมาให้เห็นกัน แต่ก็คาดกันว่าการเปิดตัวระบบปฏิบัติการและเทคโนโลยีใหม่ๆในงาน WWDC 2014 ปีนี้น่าจะเป็นการปูทางไปสู่การเปิดตัวอุปกรณ์ในงานของแอปเปิ้ลครั้งต่อไป ซึ่งหลายกระคาดการณ์ว่าจะมีขึ้นในเดือนกันยายนของปีนี้ ดังนั้น ใครที่เล็งเสียทรัพย์ให้กับแอปเปิ้ลละก็ควรเก็บเงินรอแต่เนิ่นๆไว้ได้เลย