เอชพีเชื่อว่าการแตกธุรกิจดังกล่าวจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโต้ได้รวดเร็วขึ้นด้วยการดำเนินงานที่ให้ความสนใจเฉพาะด้านมากขึ้น
ในช่วงที่ผ่านมา เอชพีได้ประสบปัญหาเช่นเดียวกับบรรดาผู้ผลิตพีซีรายอื่นๆ เนื่องจากลูกค้าได้หันไปให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แทนเดสก์ท็อปและแล็ปท็อป โดยรายได้ของบริษัทได้ลดลง 11 ไตรมาสในช่วง 12 ไตรมาสที่ผ่านมา และมีการปลดพนักงานหลายหมื่นคนในช่วงหลายปีมานี้เพื่อพยายามลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
เอชพีหวังว่าธุรกิจที่แตกออกเป็น 2 บริษัทดังกล่าวจะสามารถขยายตัวได้รวดเร็วมากกว่าการอยู่รวมกัน โดยธุรกิจพีซีและพรินเตอร์จะใช้ชื่อว่า เอชพี อิงค์ ส่วนธุรกิจบริการจะมีชื่อว่า ฮิวเลตต์-แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรซ์
ทั้งนี้ เอชพีวางแผนที่จะปลดพนักงานเพิ่มอีก 5,000 คน อันเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้าง โดยจะส่งผลให้การปลดพนักงานมีจำนวนทั้งสิ้น 55,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่วางแผนไว้ที่ 50,000 คน
หากบอร์ดของบริษัทเห็นชอบ ก็คาดว่าการแยกธุรกิจดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีงบการเงิน 2558 และเมื่อแยกธุรกิจแล้ว บรรดาผู้ถือหุ้นของเอชพีก็จะเป็นเจ้าของหุ้นของทั้งสองบริษัท