โซฟี วู รองประธานอาวุโสของอาลีบาบา กรุ๊ป บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่สัญชาติจีน เปิดเผยว่า อาลีบาบามองเห็นโอกาสครั้งใหญ่ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศอาหรับ อันเนื่องมาการจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ที่ดูไบ และฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
นางโซฟีกล่าวแสดงความคิดเห็นในระหว่างการประชุมอีคอมเมิร์ซตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือว่า คาดว่าจำนวนผู้ใช้บริการอีคอมเมิรซในตะวันออกกลางจะเพิ่มขึ้นจากการจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ที่ดูไบ และฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
"งานอันยิ่งใหญ่ทั้ง 2 แห่งที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ดูไบและกาตาร์ ได้แก่ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 และฟุตบอลโลกในอีก 2 ปีต่อมานั้น จะดึงความสนใจจากผู้ขายจีนและผู้ซื้อในประเทศเหล่านี้ได้มากขึ้น" นางวูระบุ
"ด้วยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของเรา ผู้ซื้อผู้ขายในประเทศอาหรับจะสามารถเข้าถึงตลาดจีนและทั่วโลก เนื่องจาก Alibaba.com เป็นแหล่งค้าส่งแห่งใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของรายได้ มีผลิตภัณฑ์พร้อมส่งหลายพันรายการจากกว่า 40 ภาคอุตสาหกรรม และมีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนจาก 240 ประเทศ ด้วยตัวเลขผู้ใช้ 2.6 ล้านราย ตะวันออกกลางจึงเป็นภูมิภาคที่มีอัตราผู้ใช้เติบโตสูงสุดแห่งหนึ่งสำหรับอาลีบาบา" โซฟีกล่าว
ด้านนายฮีแชม อัลดุลเลาะห์ อัล-ชิราวี รองประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมดูไบ เปิดเผยข้อมูลจากบริษัทด้านให้คำปรึกษา ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ประจำหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งระบุว่า ปริมาณการซื้อขายผ่านอีคอมเมิร์ซเพียงช่องทางเดียว คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2.5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี สู่ระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2561
เมื่อเดือนพ.ค.ปี 2555 ที่ผ่านมานั้น อีลาบาบาได้ให้ความร่วมมือกับหอการค้าดูไบและสมาคมอุตสาหกรรมอื่นในรัฐดังกล่าว เพื่อให้เพื่อบริษัทสมาชิกในองค์กรเหล่านั้นเข้าถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบาได้ง่ายขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน