นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่าเกาหลีเหนือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีทางไซเบอร์ค่ายภาพยนตร์โซนี พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ โดยระบุว่าสหรัฐโยงเกาหลีเหนือกับการโจรกรรมโซนี พิคเจอร์สโดยไม่มีมูลความจริง พร้อมกับยื่นข้อเสนอที่จะร่วมสืบสวนเหตุการณ์นี้ร่วมกับสหรัฐ
"หากสหรัฐยังคงยืนกรานอย่างแนวแน่ว่าการแฮ็กโจมตีดังกล่าวกระทำโดยเกาหลีเหนือ สหรัฐควรมีหลักฐานที่แน่นอน แม้ว่ามันจะออกมาช้าก็ตาม" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ ระบบอินเทอร์เน็ตในเกาหลีเหนือล่มในวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่ระบบเริ่มที่จะไม่เสถียรตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งตรงกับวันที่เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า เกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการโจรกรรมข้อมูลของค่ายภาพยนตร์โซนี่ พิคเจอร์ส เอนเตอร์เทนเมนต์
โดยโซนี พิคเจอร์ส ได้ตัดสินใจยกเลิกกำหนดการฉายภาพยนตร์ "The Interview" ซึ่งมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความพยายามที่จะลอบสังหาร นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ หลังจากที่มีกลุ่มแฮคเกอร์เจาะระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท และเปิดโปงข้อมูลบางส่วนช่วงปลายเดือนพ.ย. พร้อมทั้งยังขู่ผู้ที่จะไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ อย่างไรก็ดี ต่อมาบริษัทได้ตัดสินใจฉายภาพยนตร์เรื่องนี้แบบจำกัดโรงตามกำหนดเดิมคือ วันพฤหัสบดีที่ และเปิดช่องทางรับชมภาพยนตร์เรื่อง "The Interview" ผ่านทางบริการสตรีมมิ่งวีดิโอตั้งแต่วันพุธ