เจมส์ คอเมย์ ผู้อำนวยการ FBI ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการตุลาการสภาผู้แทนราษฎรวานนี้ว่า การใช้เครือข่ายที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการคุกคามทางไซเบอร์มีความสำคัญ อย่างไรก็ตาม การออกแบบทางเทคนิคนั้น ไม่ควรทำให้เกิดข้อจำกัดในการเข้าถึงหลักฐานอาชญากรรม เมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวนรัฐได้รับอนุญาตจากศาลอย่างเหมาะสม
"เรามีหลักฐานมากขึ้นเรื่อยๆ และเราเชื่อว่าหลักฐานสำคัญอยู่ในโทรศัพท์ แท็บเบล็ต หรือแลปทอป เป็นหลักฐานที่ชี้เป็นชี้ตายว่าผู้กระทำผิดมีความผิดหรือพ้นโทษ"
"ถ้าเราเข้าถึงหลักฐานนี้ไม่ได้ ก็จะกระทบความสามารถของเราอย่างหนักและต่อเนื่องในการระบุตัว ยับยั้ง และดำเนินคดีผู้กระทำผิด" นายโคเมย์ระบุ
ทางด้านบรูซ เซเวลล์ รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของแอปเปิลแจงต่อคณะกรรมาธิการว่า FBI ขอให้แอปเปิลสร้างช่องโหว่ (Backdoor) ของไอโฟนเครื่องนั้น เพื่อให้ FBI เจาะเข้าไปได้
"พวกเราเห็นว่าไม่ใช่เรื่องการเข้าถึงไอโฟนเครื่องเดียว FBI ขอให้แอปเปิลทำให้ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์หละหลวม แฮกเกอร์และอาชญกรรมไซเบอร์อาจฉวยโอกาสสร้างความเสียหายต่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย และเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่อันตรายในการเปิดทางให้รัฐบาลรุกล้ำความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของประชาชน" นายเซเวลล์กล่าว
ด้านนายโคเมย์ได้ทักท้วงคำพูดของนายเซเวลล์ โดยระบุว่าไอโฟนมีช่องโหว่นั่นอยู่แล้ว FBI เพียงขอให้แอปเปิลนำระบบรักษาความปลอดภัยออกไปเพื่อให้ปลดล็อกเครื่องได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน