ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) เปิดเผยว่า ชาวจีนหันมาชำระเงินผ่านโทรศัพม์มือถือมากขึ้น เนื่องจากการจ่ายเงินผ่านแอพพลิเคชั่นง่ายกว่าเดิมมาก แม้จะยังคงกังวลเรื่องความปลอดภัยอยู่ก็ตาม
ผลสำรวจของ PwC ระบุว่า ในปีที่แล้วผู้ตอบแบบสอบถามในจีนถึง 1 ใน 3 ได้ชำระเงินผ่านมือถือ เพิ่มขึ้นจาก 16% ในปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยโลกที่ 12%
ความนิยมในการชำระเงินผ่านมือถือในจีนนั้น เพิ่มขึ้นหลังจากช่องทางชำระเงินผ่านมือถือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เครือข่ายมือถือเดินหน้าขยายสัญญาณ
ผู้บริโภคชาวจีนมีช่องทางการชำระเงินผ่านมือถือให้เลือกมากมาย อาทิ การชำระเงินผ่านระบบ near field communication (NFC) และ QR Code ซึ่งรวดเร็วและปลอดภัยกว่าแต่ก่อน
ในขณะที่การชำระเงินผ่านระบบคลาวด์ ตัวส่งสัญญาณคลื่นแม่เหล็ก และอุปกรณ์สวมใส่ก็มีเลือกมากขึ้นเช่นกัน และนอกจากนี้ ยังมีระบบชำระเงินผ่านไบโอเมทริก เช่น การสแกนลายนิ้วมือ และการจดจำใบหน้า
"เนื่องจากการแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือดมากขึ้น ผู้ให้บริการชำระเงินผ่านมือถือจึงพยายามดึงดูดผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจใหม่ๆตลอดเวลา" ยูชิง กัว หุ้นส่วนที่ปรึกษาบริการด้านการเงิน PwC China กล่าว
อย่างไรก็ดี ความปลอดภัยยังถือเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้บริโภคชาวจีนกังวล สำหรับความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมชำระเงินผ่านมือถือประกอบด้วย การรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้ กลโกงการชำระเงิน และการโจมตีของไวรัส
PwC ระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 60% กังวลว่าข้อมูลส่วนตัวจะไม่ปลอดภัย
ทั้งนี้ ทางการจีนได้ออกนโยบายควบคุมความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และมีการใช้แนวทางใหม่ๆ อาทิ กระบวนการแปลงข้อมูลกลายเป็นโทเค็นเพื่อการชำระเงิน (Tokenization)
อุตสาหกรรมชำระเงินผ่านมือถือในจีนยังมีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น คนยุคใหม่ที่รอบรู้เทคโนโลยีมีมากขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกและสินค้าผู้บริโภคของจีนจะเติบโตปีละ 7.5% ในปี 2559 - 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน