รายงานฉบับล่าสุดของ FireEye Inc. ซึ่งเป็นบริษัทความมั่นคงไซเบอร์ชั้นนำของสหรัฐเปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ของเกาหลีเหนือพยายามก่อเหตุโจมตีทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อโจรกรรมเงินจากธนาคารและสถาบันการเงินทั่วโลก คิดเป็นมูลค่าอย่างน้อย 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา
กลุ่มแฮกเกอร์ซึ่งถูกระบุในชื่อว่า "APT38" ได้แทรกซึมเข้าไปในระบบขององค์กรกว่า 16 แห่งใน 11 ประเทศ รวมถึง สหรัฐอเมริกา และโจรกรรมเงินไปได้แล้วกว่า 100 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้รายงานยังระบุด้วยว่า แฮกเกอร์กลุ่มนี้สามารถผ่านเข้าเซิร์ฟเวอร์รักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาซับซ้อนของธนาคารเข้าไปได้และกวาดข้อมูลที่พบในเครือข่ายได้ พร้อมเตือนให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเร่งตื่นตัวและหาวิธีป้องกันการโจมตีที่เกิดขึ้น
รองประธานฝ่ายให้คำปรึกษาที่บริษัท FireEye เปิดเผยว่า "แฮกเกอร์กลุ่มนี้มีความเข้าใจระบบธนาคารอย่างช่ำชอง" และ "พวกเขาอาจพิจารณาถึงประเด็นภูมิศาสตร์การเมืองเบื้องหลังระยะเวลาและตำแหน่งในการโจมตีแต่ละครั้งด้วย"
สำหรับเหตุโจมตีทางไซเบอร์ที่โด่งดังมีชื่อเสียงที่สุดของกลุ่มแฮกเกอร์ APT38 ได้แก่ การโจรกรรมเงินจากบัญชีธนาคารกลางบังกลาเทศในธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อ 2 ปีก่อน โดยในกรณีดังกล่าว แฮกเกอร์ได้โยกย้ายถ่ายโอนเงินจำนวน 100 ดอลลาร์ผ่านการทำธุรกรรมลวง อย่างไรก็ดี เงินประมาณ 40 ล้านดอลลาร์ได้รับการกู้คืนหลังตรวจพบการก่อเหตุโจมตีไซเบอร์และระงับการโอนเงินได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่แฮกเกอร์จะถอนออกจากบัญชี
ทางด้านเจ้าหน้าที่ทูตและสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือยืนกรานปฎิเสธความเกี่ยวข้องในเหตุโจมตีไซเบอร์ดังกล่าวมาโดยตลอด