หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า เฟซบุ๊กได้อนุญาตให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงเน็ตฟลิกซ์ และสปอติฟาย สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กมากขึ้นกว่าที่เคยมีการเปิดเผยมาก่อนหน้านี้
รายงานของนิวยอร์ก ไทม์ส ระบุว่า เฟซบุ๊กได้อนุญาตให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เหล่านี้สามารถอ่านข้อความส่วนตัวของผู้ใช้งานได้
อย่างไรก็ตาม โฆษกของเฟซบุ๊กได้ออกมาชี้แจงว่า "บริษัทที่เป็นพันธมิตรของเฟซบุ๊กไม่ได้มองข้ามในเรื่องระบบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน การกล่าวหาว่าพวกเขากระทำการเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง"
โฆษกของบริษัทสปอติฟายกล่าวว่า เมื่อก่อนผู้ใช้งานสามารถแชร์เพลงร่วมกับเพื่อนๆ และเพิ่มข้อความให้ปรากฏบนแอปพลิเคชั่นสปอติฟาย แต่ปัจจุบันลักษณะการใช้งานเช่นนี้ยังไม่สามารถทำได้ พร้อมกับกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า สปอติฟายเคยเข้าถึงข้อความส่วนตัวของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก
ทางด้านโฆษกของเน็ตฟลิกซ์กล่าวว่า เน็ตฟลิกซ์ไม่เคยเข้าถึงข้อความส่วนตัวของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก
นอกจากนี้มีรายงานว่า อัยการกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ได้ยื่นฟ้องร้องต่อบริษัทเฟซบุ๊กในข้อหาละเมิดความเป็นส่วนตัว จากเหตุการณ์ที่เฟซบุ๊กยอมให้แคมบริดจ์ อนาลิติกา ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์การเมือง สามารถเข้าถึงข้อมูลโปรไฟล์ของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กจำนวน 50 ล้านคนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กกำลังเผชิญกับวิกฤตความเชื่อมั่นด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน โดยรายงานข่าวในด้านลบเหล่านี้ส่งผลให้ราคาหุ้นเฟซบุ๊กปิดตลาดร่วงลงกว่า 7% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้