หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า เฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความบนบล็อกของบริษัท เพื่ออธิบายเกี่ยวกับสาเหตุที่เฟซบุ๊กได้อนุญาตให้สปอติฟาย เน็ตฟลิกซ์ และรอยัลแบงก์ ออฟ แคนาดา สามารถอ่าน เขียน และลบข้อความส่วนตัวของผู้ใช้งานได้
เฟซบุ๊กได้ระบุข้อความลงในบล็อกว่า การกระทำดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทเหล่านี้สามารถอ่าน เขียน และลบข้อความส่วนตัวได้ เพื่อที่ว่าผู้ใช้งานอาจต้องสื่อสารโดยใช้บริการแบบบุคคลที่สาม (third-party services)
ข้อความในบล็อกของเฟซบุ๊กระบุว่า "การให้บริการในรูปแบบบุคคลที่สามจะไม่สามารถอ่านข้อความส่วนตัวของคุณหรือเขียนข้อความไปหาเพื่อนของคุณได้โดยไม่ได้รับการอนุญาต" พร้อมระบุด้วยว่า "เรื่องราวที่ตกเป็นข่าวมากมายที่จะสื่อว่า เรากำลังส่งข้อความส่วนตัวให้กับพันธมิตรนั้น ไม่เป็นความจริง"
ถ้อยแถลงดังกล่าวของเฟซบุ๊กมีขึ้นหลังจากราคาหุ้นเฟซบุ๊กปิดตลาดร่วงลงกว่า 7% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากรายงานของนิวยอร์ก ไทม์ส ซึ่งระบุว่า เฟซบุ๊กได้อนุญาตให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงเน็ตฟลิกซ์ และสปอติฟาย สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กมากขึ้นกว่าที่เคยมีการเปิดเผยมาก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ อัยการกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ได้ยื่นฟ้องร้องต่อบริษัทเฟซบุ๊กในข้อหาละเมิดความเป็นส่วนตัว จากเหตุการณ์ที่เฟซบุ๊กยอมให้แคมบริดจ์ อนาลิติกา ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์การเมือง สามารถเข้าถึงข้อมูลโปรไฟล์ของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กจำนวน 50 ล้านคนโดยไม่ได้รับอนุญาต