เกรแฮม เว็บสเตอร์ นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัย New America ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของจีน ได้กล่าวแสดงความเห็นว่า แม้ข้อกล่าวหาที่รัฐบาลสหรัฐใช้โจมตีบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ไม่ได้ระบุถึงเทคโนโลยี 5G หรือหน่วยสืบราชการลับของจีน แต่การที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐยื่นฟ้องคดีอาญาต่อผู้บริหารของหัวเว่ย และบริษัท 1 แห่งในเครือของหัวเว่ยนั้น สะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐพยายามจะส่งสัญญาณถึงทั่วโลกว่า เทคโนโลยี 5G ของจีนไม่น่าไว้วางใจ
เว็บสเตอร์กล่าวว่า สหรัฐได้ส่งสารที่ชัดเจนไปยังผู้นำโลกทั่วโลกให้พิจารณาว่า ควรนำอุปกรณ์ของหัวเว่ยมาใช้ในโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายยุคใหม่มาใช้หรือไม่ ขณะที่ผู้นำทั่วโลกต่างก็ต้องการจัดการกับการโจรกรรมข้อมูล
เว็บสเตอร์ ยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐพยายามที่จะลดความน่าเชื่อถือของหัวเว่ย โดยกล่าวว่า หัวเว่ยขาดความน่าเชื่อถือหากจะนำอุปกรณ์ของบริษัทแห่งนี้มาใช้ในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
ความเคลื่อนไหวของผู้เชี่ยวชาญรายนี้มีขึ้นหลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ตั้งข้อหาในคดีอาญาต่อนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ รวมทั้งบริษัทหัวเว่ย ดีไวซ์ ยูเอสเอ อิงค์ และสกายคอม เทค โค ในการกระทำความผิดเกือบ 24 คดีด้วยกัน นางเมิ่งถูกทางการสหรัฐตั้งข้อกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมหลอกลวงในกรณีลักลอบทำข้อตกลงทางธุรกิจกับอิหร่าน โดยนางเมิ่งถูกระบุว่าได้ใช้บริษัทสกายคอม ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อบังหน้า (shell company) ในการทำธุรกิจกับอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐบังคับใช้ต่ออิหร่านในช่วงปี 2552-2557
นอกจากนี้ นางเมิ่งยังถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าหลอกลวงสาธารณชนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานะของบริษัทสกายคอม โดยเมื่อครั้งที่สหรัฐระบุว่าสกายคอมและหัวเว่ยเป็นบริษัทเดียวกันนั้น นางเมิ่งยืนยันว่า สกายคอมได้แยกตัวออกจากหัวเว่ยแล้ว