บริษัทลูเมนตั้ม โฮลดิงส์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนมือถือสัญชาติสหรัฐ ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า ทางบริษัทได้ตัดสินใจระงับการจัดส่งสินค้าแก่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ของจีน ซึ่งถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าซื้ออุปกรณ์ต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐ และทางบริษัทยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะกลับมาจัดส่งอีกครั้งได้เมื่อใด
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า บริษัทลูเมนตั้ม เป็นบริษัทสหรัฐรายแรกที่ได้ออกมาประกาศระงับการจัดส่งให้หัวเว่ยอย่างเป็นทางการ ขณะที่ของบริษัทอื่นๆ นั้นเป็นเพียงรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า บริษัทอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล (Google) ได้ระงับการทำธุรกิจกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ของจีน หลังจากที่สำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง (BIS) ซึ่งสังกัดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้รวมหัวเว่ยและบริษัทในเครือไว้ในรายชื่อบริษัทใน "Entity List" ซึ่งเป็นบัญชีรายชื่อของบริษัทด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐเข้าซื้ออุปกรณ์ต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐ
ต่อมา สำนักข่าวต่างประเทศและสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ อาทิ กูเกิล (Google) อินเทล (Intel), ควอลคอมม์ (Qualcomm) และบรอดคอม (Broadcom) ได้ออกมาประกาศระงับการดำเนินธุรกิจกับหัวเว่ย ตามคำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐ
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า บริษัทอินเทล ควอลคอมม์ บรอดคอม และซิลลินซ์ (Xilinx) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ได้แจ้งต่อพนักงานของตนว่า บริษัทต้องยุติการดำเนินธุรกิจกับหัวเว่ย จนกว่าจะมีประกาศจากทางรัฐบาลออกมาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อห้ามบริษัทของสหรัฐจากการใช้เทคโนโลยีและบริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของบริษัทที่สหรัฐเชื่อว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่พุ่งเป้าอย่างชัดเจนไปที่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ของจีน