นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ออกตัวสนับสนุนบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ธุรกิจเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน แม้หัวเว่ยถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำก็ตาม โดยผู้นำมาเลเซียให้เหตุผลไว้ว่า อุปกรณ์ของหัวเว่ย "ทันสมัยกว่าเทคโนโลยีสหรัฐ" และจะใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ก่อนหน้านี้ นายมหาเธร์ เคยเดินทางเยือนสำนักงานหัวเว่ยสาขาปักกิ่งมาแล้ว ซึ่งหลังจากที่ได้เยี่ยมชมสถานที่ นายมหาเธร์ได้กล่าวชื่นชมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของหัวเว่ย
ถ้อยแถลงของผู้นำมาเลเซียได้แสดงให้เห็นว่า ความพยายามของสหรัฐในการโน้มน้าวชาติพันธมิตรไม่ให้ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยนั้นได้ผลตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร โดยคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้พุ่งเป้าจัดการกับหัวเว่ยมานานหลายเดือน เริ่มจากเรียกร้องให้ประเทศพันธมิตรห้ามใช้อุปกรณ์เครือข่ายของหัวเว่ย และขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยโดยห้ามหัวเว่ยซื้อซอฟท์แวร์และส่วนประกอบจากบริษัทสหรัฐ
ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้ห้ามการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยในเครือข่าย 5G ขณะที่ญี่ปุ่นระบุว่าจะไม่ใช้อุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคง โดยไม่ได้ทำการตัดสินใจอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับหัวเว่ย แต่สื่อในประเทศรายงานว่า บริษัทเทเลคอมชั้นนำ 3 แห่งของญี่ปุ่น ซึ่งได้แก่เอ็นทีที โดโคโม อิงค์, ซอฟท์แบงค์ และ เคดีดีไอ คอร์ป จะไม่ร่วมธุรกิจกับหัวเว่ย และแซดทีอี