ผู้เชี่ยวชาญในตลาดวอลล์สตรีทเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จีนอาจจะลงทุนมากกว่า 1.50 แสนล้านดอลลาร์ในโครงข่าย 5G ไปจนถึงปี 2568 โดยระบบไร้สาย 5G คิดเป็นสัดส่วน 75% ของมูลค่าการลงทุนดังกล่าว
นายอัลเลน ชาง นักวิจัยของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า "มูลค่าการลงทุนดังกล่าวสูงกว่าการลงทุน 1 แสนล้านดอลลาร์ของจีนในโครงข่าย 4G ในปี 2556-2561 ซึ่งมูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่เป็นผลจากสถานีฐาน 5G ที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนขั้นต้นที่สูงขึ้นของอุปกรณ์ 5G"
จีนได้อนุมัติการให้บริการเชิงพาณิชย์ของเทคโนโลยี 5G อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อต้นเดือนนี้ และปัจจุบันกำลังทดสอบระบบ 5G ในเมืองและมณฑลหลักๆ ทั้งหมด และคาดว่าจีนจะเริ่มใช้งานระบบ 5G เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กในปีนี้ และเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ในปีหน้า
Global System for Mobile Communications Alliance เปิดเผยรายงานประมาณการว่า การเชื่อมต่อการสื่อสารเคลื่อนที่ของจีนจะดำเนินการบนโครงข่าย 5G ได้ภายในปี 2568 โดยคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของการเชื่อมต่อระบบ 5G ทั่วโลก
นายชางตั้งข้อสังเกตว่า จีนจะเป็นเจ้าของสถานีฐานระบบ 5G จำนวน 4.9 ล้านสถานีภายในปี 2573 ขณะที่ความต้องการที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคสำหรับเครือข่ายสื่อสารความเร็วสูงของ 5G และการแข่งขันอย่างดุเดือดระหว่างแบรนด์ต่างๆ ในการเสนอระบบการสื่อสารที่ดีขึ้นนั้น จะทำให้การส่งออกสมาร์ทโฟน 5G พุ่งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัทหัวเว่ยซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของจีนประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า หัวเว่ยได้รับสัญญาบริการด้านการพาณิชย์สำหรับระบบ 5G จำนวน 50 สัญญาจาก 30 ประเทศและภูมิภาค และได้ส่งออกสถานีฐานระบบ 5G จำนวนกว่า 150,000 สถานีไปยังทั่วโลก
นายหู หัวคุน รองประธานหัวเว่ยคาดว่า สถานีฐาน 5G ของบริษัท จะขยายตัวสู่ราว 500,000 สถานีภายในสิ้นปีนี้