แอปเปิล อิงค์เปิดตัว iPhone ใหม่ 3 รุ่นวานนี้ โดยชูจุดขายเรื่องกล้องที่ถ่ายภาพได้ทั้งในมุมกว้าง และซูมภาพได้ละเอียดขึ้น รวมทั้งแบตเตอรีที่ใช้งานได้นานขึ้น
ทั้งนี้ iPhone 11 จะมาแทนที่ iPhone XR ส่วน iPhone 11 Pro มาแทนที่ iPhone XS ขณะที่ iPhone 11 Pro Max มาแทนที่ iPhone XS Max
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า iPhone ใหม่ทั้ง 3 รุ่นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักจากปีที่แล้ว จนกว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPhone 5G ในปีหน้า ซึ่งจะเพิ่มความเร็วในการรองรับข้อมูลได้มากขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ iPhone ทั้ง 3 รุ่นไม่รองรับระบบ 5G จะกระทบต่อยอดขายของ iPhone โดยเฉพาะในจีน ซึ่งได้เริ่มเปิดตัวเครือข่าย 5G แล้ว ขณะที่หัวเว่ย ซึ่งเป็นคู่แข่งของแอปเปิล จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่นในปีนี้ที่รองรับ 5G ส่วนเสียวหมี่ก็มีรุ่นหนึ่งที่รองรับ 5G แล้ว
นอกจากนี้ การที่แอปเปิลยังคงใช้กลยุทธ์ตั้งราคา iPhone ให้สูงกว่าคู่แข่ง ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันยอดขายในจีน
Susquehanna International Group คาดการณ์ว่า ยอดขาย iPhone ปีนี้อยู่ที่เพียง 70 ล้านเครื่อง ลดลงเกือบ 30% จากช่วงที่ยอดขาย iPhone พุ่งสูงสุดในปี 2557 แต่คาดว่ายอดขาย iPhone จะดีดตัวขึ้นในปีหน้า หากแอปเปิลเปิดตัว iPhone 5G
ส่วนนายเอ็ดดี้ ฮั่น นักวิเคราะห์จากมาร์เก็ต อินเทลลิเจนส์ แอนด์ คอนซัลติง อินสติติว คาดการณ์ว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนระบบ 5G จะเพิ่มเป็น 35 ล้านเครื่องในปีหน้า และอาจพุ่งแตะ 75 ล้านเครื่อง หรือ 100 ล้านเครื่อง หากมีการเปิดตัว iPhone 5G