นายออสติน ชาง ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาธารณะและการสื่อสารของหัวเว่ยประจำยุโรปกลาง ยุโรปตะวันตก และภูมิภาคนอร์ดิก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวในงานแถลงข่าวว่า ยุโรปเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของการลงทุนที่สำคัญ ดังนั้น หัวเว่ยจึงได้ยกระดับความร่วมมือกับยุโรป ภายใต้หลักการ "ในยุโรป กับยุโรป เพื่อยุโรป"
"ในปัจจุบัน หัวเว่ยมีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) จำนวน 26 แห่งใน 14 ประเทศของยุโรป และ ณ สิ้นสุดปีที่ผ่านมา เรามีพนักงานในยุโรป 12,200 คน โดยมีพนักงาน 2,000 คนปฏิบัติหน้าที่ใน R&D" นายชางกล่าว
"สำหรับหัวเว่ยแล้ว ยุโรปไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางการขาย แต่ยังเป็นภูมิภาคที่เป็นศูนย์กลางของฟังก์ชันต่างๆที่มีความครอบคลุม อาทิ การค้า, R&D, การผลิต, การขนส่ง และการฝึกอบรม" นายชางกล่าว
นายหยาง เฉาบิน ประธานสายผลิตภัณฑ์ 5G ของหัวเว่ย กล่าวว่า ในจำนวนสัญญาเชิงพาณิชย์กว่า 50 ฉบับที่หัวเว่ยได้ลงนามกับประเทศต่างๆทั่วโลกนั้น มียุโรปถึง 28 ฉบับ
เมื่อมีการตั้งคำถามถึงบันทึกความเข้าใจที่สหรัฐได้ลงนามร่วมกับโปแลนด์เกี่ยวกับการประเมินผู้ให้บริการ 5G จากต่างชาติอย่างเคร่งครัดนั้น นายชางได้ตั้งคำถามถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของสหรัฐ โดยนายชางกล่าวว่า มันไม่เกี่ยวกับความมั่นคงทางไซเบอร์ แต่เกี่ยวกับการเมือง และความพยายามที่จะกีดกันหัวเว่ย
"หากคุณพิจารณาเครือข่ายของสหรัฐ ซึ่งหัวเว่ยไม่ได้มีส่วนร่วมในการก่อสร้างเครือข่ายเลย แต่ราคาของเครือข่ายในสหรัฐสูงกว่ายุโรปถึง 3 เท่า และก็ไม่ได้มีความปลอดภัยมากไปกว่าเครือข่ายของยุโรป"